วันเสาร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เย้ๆ เสร็จแล้ว

เหตุใดไม้ขีดไฟจึงติดไฟได้

ไม้ขีดไฟที่เราใช้กัน อาจแบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ

1. ไม้ขีดไฟชนิดพิเศษ ติดไฟได้ง่ายเมื่อขีดบนผิวหยาบใดๆก็ได้ ทำได้โดย นำก้านไม้ขีดทั้งอันจุ่มสารละลายอัมโมเนียมฟอสเฟต เพื่อป้องกันการลุกลามเมื่อเกิดการลุกไหม้ อันเป็นผลเนื่องมาจาก การหยิบถือโดยขาดความระมัดระวัง ขั้นต่อไปนำปลายข้างหนึ่งจุ่มพาระฟินเหลว เพื่อทำเป็นหัวไม้ขีด แล้วจึงนำไปจุ่มลงในสารผสมของกาว ตะกั่วออกไซด์ และสารประกอบฟอสฟอรัสตามลำดับ

การขัดสีทำให้สารประกอบของฟอสฟอรัส และตะกั่วเกิดการลุกไหม้ ทำให้พาระฟินติดไฟ และลุกลามไปถึงก้านไม้ขีดด้วย

2. ไม้ขีดไฟชนิดธรรมดา ติดไฟได้เมื่อเอามาขีดที่ข้างกลักไม้ขีด หัวไม้ขีดประกอบด้วยสารเคมี(แอนติโมนีซัลไฟด์ และโปตัสเซียมคลอเรต)ซึ่งให้ก๊าซออกซิเจนเพื่อช่วยให้ติดไฟง่ายขึ้น ข้างกลักไม้ขีดประกอบด้วยฟอสฟอรัสแดง (ชนิดที่ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์) เมื่อเราขีดหัวไม้ขีดที่ข้างกลักจะทำให้ฟอสฟอรัสแดงระเหิดออกมา รวมกับออกซิเจนที่เกิดจากหัวไม้ขีด จึงทำให้หัวไม้ขีดติดไฟได้

วิธีการฝึกสติ

หากความหมายของการ "ตื่น" คือ การมีสติ การรู้ตัว และไม่เผลอหลงไปกับพฤติกรรมหรือความคิดที่เราเคยชิน การเจริญสติในชีวิตประจำวันย่อมเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้ปฏิบัติ แต่การ ตื่น' ในชีวิตประจำวันนั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก ... แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากจนเกินไปเช่นกัน
จากการพูดคุยกับพี่น้องผู้ปฏิบัติหลายท่าน เราได้รับฟังประสบการณ์ที่แต่ละคนแลกเปลี่ยนว่า มีวิธีการปฏิบัติส่วนตัวในชีวิตประจำวันกันอย่างไรบ้าง เราจึงอดไม่ได้ที่จะนำเสนอกุศโลบายที่แยบคาย และน่าสนุกยิ่งสำหรับนักปฏิบัติในคอลัมน์ครั้งนี้
1. ระฆังแห่งสติในคอมพิวเตอร์
เหมาะมากสำหรับผู้ที่ทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน เมื่อได้ยินเสียงระฆังจากโปรแกรม (เราสามารถตั้งไว้ได้ว่าจะให้ดังทุก 15 นาที หรือ ทุกชั่วโมง ที่กังวานใส เราก็เพียงหยุดทุกสิ่งที่ทำอยู่ รวมถึงหยุดคิดด้วย แล้วกลับมาอยู่กับลมหายใจแห่งสติสัก 3 ลมหายใจ แล้วจึงค่อยทำงานต่อ ส่วนใครจะหายใจไปด้วย ยิ้มไปด้วย ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
2. ระฆังแห่งสติในชีวิตประจำวัน
สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์ก็สามารถเจริญสติได้ โดยการหาอะไรสักอย่างที่มีอยู่ในชีวิตประจำวันมาเป็น
"ระฆังแห่งสติ" ให้กับตนเอง บางคนใช้เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ตามลมหายใจก่อนรับโทรศัพท์ มีพี่หมอท่านหนึ่งได้แลกเปลี่ยนว่า เพราะการเป็นหมอดมยาในห้องผ่าตัด (วิสัญญีแพทย์) พี่หมอจึงใช้เสียงของเครื่องปั๊มอากาศในห้องผ่าตัดแทนระฆัง เมื่อได้ยินเสียงเครื่องปั๊มอากาศพี่หมอก็กลับมาอยู่กับลมหายใจ แล้วชวนให้ผู้ป่วยกลับมาอยู่กับลมหายใจพร้อมกัน พี่หมอบอกว่านอกจากตัวเองแล้ว ยังสังเกตได้ว่าผู้ป่วยที่เคยกังวล ค่อยๆ หลับไปด้วยความผ่อนคลายยิ่งขึ้นด้วย งานนี้เรียกว่าหนึ่งได้สองกันเลยเชียว
3. ทางเดินแห่งสติ
เราอาจเลือกเส้นทางหนึ่งที่เราต้องเดินในทุกวันให้เป็นทางเดินแห่งสติของเราเอง อาจเป็นทางเดินที่ไม่ไกลนัก เช่น จากที่จอดรถไปห้องทำงาน หรือจากตึกหนึ่งไปสู่อีกตึกหนึ่งหรือบันไดระหว่างชั้นที่เรามักต้องขึ้นลงบ่อยๆ ขอให้เราตั้งใจเอาไว้ว่า ในเส้นทางนี้เราจะเดินอย่างมีสติในทุกย่างก้าว ให้เป็นเส้นทางที่เดินแล้วเราได้ผ่อนคลาย เป็นการเดินที่สร้างรอยยิ้มให้กับเราก็เพียงพอแล้ว

4. ไฟแดงคือหยุดอย่างแท้จริง
น้องคนหนึ่งแลกเปลี่ยนว่า แทนที่จะปล่อยความหงุดหงิดไปกับรถติดบนท้องถนน เธอเลือกที่จะใช้ไฟแดงนั้นเป็นอุปกรณ์ทำให้เธอได้กลับมาอยู่กับลมหายใจ และยิ้มให้กับไฟแดงซะเลย ยิ่งติดไฟแดงบ่อยเท่าไหร่ก็ยิ่งมีโอกาสกลับมาอยู่กับลมหายใจเท่านั้น เธอบอกไว้พร้อมรอยยิ้ม
5. จักรวาลในจานข้าว
บางคนจะที่ชอบทานก็สามารถยึดเอาเป็นสรณะได้เช่นกัน เพราะยิ่งทานก็ยิ่งมีโอกาสได้พิจารณาอาหารได้มากครั้งเท่านั้น เราได้มีโอกาสฝึกมองอย่างลึกซึ้งว่าอาหารหรือขนมที่อยู่ตรงหน้านั้นมาจากไหนบ้าง มีผู้คนที่ทำงานหนักด้วยความรักความเอาใจใส่อยู่มากมายเพียงใดในอาหารจานนี้ ที่สำคัญเรากำลังจะทานด้วยความรู้สึกอย่างไร เพียงเท่านี้เวลาในการทานอาหารก็กลายเป็นเวลาอันประเสริฐแห่งการปฏิบัติแล้ว
6. เพลงพาใจเบิกบาน
หมู่บ้านพลัมมีบทเพลงที่เชื้อเชิญให้กลับมาอยู่กับลมหายใจ กับปัจจุบันขณะ กับตัวเราเอง กับความเบิกบาน มากมาย เวลาที่ขุ่นมัวเราอาจจะฮัมเพลงเหล่านั้นขึ้นมาเบาๆ ซึ่งแม้เพียงแผ่วเบา ดอกไม้ก็สามารถบานขึ้นในใจได้เช่นกัน หรือใครจำเพลงของหมู่บ้านพลัมไม่ได้ อาจเลือกเพลงที่มีความหมายดีๆ ที่ชอบเป็นการส่วนตัวแทนก็ได้ ไม่ว่ากัน
7. ปฏิบัติกับสังฆะ
การดำรงสติในชีวิตประจำวันเป็นเรื่องไม่ง่าย แต่การปฏิบัติร่วมกันเป็นหมู่คณะช่วยให้การปฏิบัติง่ายขึ้นได้ เวลาเรายิ้มไม่ค่อยออก พี่น้องข้างหน้าจะส่งยิ้มให้เรายิ้มตอบ เวลาเราไม่ค่อยมีสติ พี่น้องข้างขวาจะปฏิบัติอย่างมีสติให้เราเห็น เวลาเราหลงลืมการปฏิบัติ พี่น้องข้างซ้ายจะปฏิบัติอย่างถูกต้องให้เราได้ทำตาม เวลาเราหมดกำลังใจ พี่น้องข้างหลังจะส่งพลังแห่งสติและความเบิกบานมาเกื้อกูล
"สังฆะอยู่รอบตัวเราเพื่อเกื้อกูลกันและกัน ถ้าเป็นไปได้ควรปฏิบัติร่วมกันเป็นสังฆะดีกว่าปฏิบัติเพียงลำพังคนเดียว" หลวงปู่กล่าวเอาไว้เช่นนั้น
8. ยิ้มช่วยท่านได้
เพื่อนนักปฏิบัติคนหนึ่งที่แม้จะไม่รู้จักหลวงพี่นิรามิสาเป็นการส่วนตัว แต่เพราะชอบรอยยิ้มอันเบิกบานของหลวงพี่ จึงตัดเอารูปของหลวงพี่จากนิตยสารฉบับหนึ่งเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะ เมื่อหงุดหงิดหรือมีความโกรธขึ้นมา พี่คนนี้ก็จะเปิดลิ้นชักออกมาและพบกับรอยยิ้มของหลวงพี่ ในทันใดก็สามารถสัมผัสถึงรอยยิ้มของหลวงพี่และสามารถยิ้มกลับไปได้ เมื่อรอยยิ้มเกิด ความโกรธก็จากลาไปในขณะเดียวกัน : )
9. หลวงปู่ช่วยท่านได้
พี่คนหนึ่ง (อักษรย่อ ต.) เป็นคนชอบดื่มเหล้า เมื่อปฏิบัติก็รับศีลและตั้งใจว่าจะลดการดื่มลง เมื่อกลับไปที่บ้าน พี่ต. นำใบรับศีลที่ได้วางไว้หน้าขวดเหล้าในตู้เพื่อเป็นระฆังสติ เตือนใจยามที่เพื่อนมาที่บ้านแล้วจะสังสรรค์กัน เท่านั้นไม่พอ พี่ต. ยังนำรูปหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ วางไว้หลังใบรับศีล เผื่อว่าวันไหนอดใจไม่ไหว หยิบใบรับศีลออกก็จะยังได้เจอกับหลวงปู่อีกเป็นปราการด่านสุดท้าย และขอรายงานว่า จนถึงวันนี้เป็นเวลาเกือบ 2 ปี ขวดสุราของ พี่ต. ยังไม่พร่องไปเลยสักนิด เพราะการปฏิบัติเช่นนี้นี่เอง
10. ...............
สำหรับข้อนี้ขอเว้นว่างเอาไว้ให้คุณผู้อ่านได้เติมวิธีปฏิบัติของตัวเองว่ามีวิธีการ "
ตื่น" อย่างไรบ้าง ...๐

นิสัย กับ สันดาน

         โบราณว่า "สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก" บางคนอาจจะสงสัยว่า "สันดอน" ที่ว่าคืออะไร แล้วเหตุใดจึงเป็นคำพูดเปรียบเปรยกับคำว่า "สันดาน"
คำว่า สันดอน เป็นคำนาม หมายถึงดินหรือกรวดทรายเป็นต้นซึ่งน้ำพัดเอามารวมกัน ปรากฏนูนยาวอยู่ใต้น้ำ ทำให้สูงเป็นสันขึ้น
ส่วนคำว่า สันดาน เป็นคำนาม หมายถึง อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิด เช่น มีสันดานดี มีสันดานเลว หากใช้ในภาษาปากมักใช้ไปในทางไม่สู้จะดี เช่น สันดานของเขาเป็นเช่นนี้ อย่าไปถือเลย เมื่อดูคำอธิบายทั้ง ๒ คำแล้ว คงเห็นภาพกันชัดเจนขึ้นว่าที่โบราณเปรียบไว้นั้นเพื่อให้เห็นว่า
การขุดลอกนำดินทรายที่มาทับถมอยู่ในน้ำออกไปทำได้ง่ายกว่าจะแก้อุปนิสัยที่มีมาแต่กำเนิด
      
    ที่กล่าวถึงคำว่า "สันดาน" ขึ้นมาก่อนนี้เพื่อจะโยงถึงคำอีก ๒ คำ คือคำว่า"นิสัย" และ "อุปนิสัย" 
คำว่า นิสัย เป็นคำนาม หมายถึง ความประพฤติที่เคยชิน เช่น เขาตื่นเช้าจนเป็นนิสัย คำว่า "นิสัย" ยังมีความหมายว่า ที่พึ่ง, ที่พักพิง, ที่อาศัยเช่น ผู้อุปสมบทขอฝากตัวเป็นศิษย์พระอุปัชฌาย์เรียกว่า ขอนิสัย แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึงความหมายนี้
คำว่า อุปนิสัย เป็นคำนาม หมายถึง ความประพฤติที่เคยชินเป็นพื้นมาในสันดาน เช่น ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะเสด็จไปเทศน์โปรดผู้ใดจะต้องทรงพิจารณาถึงอุปนิสัยของผู้นั้นก่อน และยังหมายถึง ความประพฤติที่เคยชินจนเกือบเป็นนิสัย เช่น นักเรียนคนนี้มีอุปนิสัยดี
ความหมายของคำ ๓ คำดังกล่าวที่ประมวลจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พุทธศักราช ๒๕๔๒ มีความแตกต่างกัน จึงควร
พิจารณาเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบทและกาลเทศ

20 คำ โกหกของผู้หญิง ที่ผู้ชายไม่เคยรู้

1. "ชีวิตนี้ฉันจะไม่ขอรักใครอีกเมื่อไม่มีคุณ"
ใครได้ยินคำนี้อย่าหลงดีใจ เพราะเค้าสามารถรักคนใหม่ได้
เมื่อต้องเลิกกันไปแล้วเพราะเค้าทำให้คุณรักได้คนอื่นก็รักได้
2. "คุณจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันรักมากที่สุด"
แม้เค้าจะแทงกั๊กประมาณว่าถึงจะมีกิ๊กใหม่ในอนาคต
เค้าก้อไม่สามารถรักเท่าที่รักเธอ แต่อารมณ์ผู้หญิงแปรปรวนนะ
บางครั้งยังไม่กล้าพูดว่ารักกันเลย ชอบเบี่ยงเบนว่าไม่รู้
แค่นี้ขนาดเจ้าตัวยังไม่รู้เลย
3. "เราจะอดทนเป็นแฟนกันจนแต่งงานในอนาคต"
เค้าพูดด้วยความรู้สึกแบบเด็กๆที่ยังไม่ได้ผ่านสารพัดร้อยล้าน
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้ความรักสะดุดเมื่อไหร่ก้อได้ เมื่อหล่อนอาจสติแตกก่อนถึงวันนั้น
4. "ฉันไม่เคยยอมใครขนาดนี้มาก่อน"
ถ้าเค้าเป็นคนที่นิสัยยอมคน เค้าก้อจะยอมกับผู้ชายทุกคนนั่นแหล่ะ
แต่ถ้าไม่ยอมหละคุณเจ็บตัวแน่นอนต้องยอมเค้าโดยที่เธอไม่คิดปรับปรุง
5. "สิ่งที่ฉันทำลงไป พยายามทำดีที่สุดแล้ว"
ถ้าเกิดเค้าได้พยายามอย่างถึงที่สุดแล้ว
ต่อให้ผู้ชายคนนั้นหูหนวกหรือตาบอดยังไงก้อต้องรู้สึกได้
แต่เธอเล่นแต่ให้ผู้ชายพยายามเต็มที่ก่อนไม่คิดทุ่มเต็มที่
เหมือนกันกลัวเสียเปรียบซะงั้น
6. "ก้อฉันเป็นของฉันหยั่งงี้มานานแล้ว"
เค้าพูดเพื่อให้คุณยอมรับนิสัยห่วยแตกของเค้า
โดยอ้างความเป็นตัวของตัวเอง ไม่คิดปรับปรุงเพื่อคุณ
7. "ให้อภัยฉันเถอะ ฉันจะไม่ได้ทำอีกแล้ว"
ธรรมดาที่เค้าจะต้องพูดเพื่อใหการอภัยโทษป้องกันชะตาขาด
และคุณเชื่อหรอว่าเค้าจะไม่พูดคำนี้อีกและอีกๆๆๆๆ
เหมือนมีดที่พร้อมแทงข้างหลังคุณทุกเมื่อ
8. "ไม่รักไม่เป็นไร ขอแค่ให้ฉันได้รักคุณก็พอ"
แค่คุณแสดงให้เห็นว่ายังไงคุณก็ไม่มีวันรักเค้าได้จริงๆ
ขี้คร้านจะรีบเด้งตัวเองจากไปภายในไม่กี่วัน
พร้อมด้วยคำนินทาคุณอีกก้อนใหญ่
9. "คิดถึงจนทนไม่ไหวแล้ว ออกมาเจอกันหน่อยนะ"
เธออาจจะถวิลหาคุณจริงๆ แต่ไม่ได้รุนแรงถึงกับจะลงแดงตาย
เหมือนคุณเป็นยาเสพย์ติดของเค้าขนาดนั้น
10. "ทำไมหรอ..ฉันเลวจนคุณไม่ไว้ใจได้เลยหรอ"
เมื่อมีความไม่พอใจต่อการกระทำของเธอในทุกกรณี
เธอจะต้องรีบปกป้องตัวเอง เพื่อแตะเบรค
ความคิดของคุณ ว่าทำไปเพราะรักคุณ
11. "ขอนอนกอดเฉยๆ ก็พอ"
นั้นหมายถึง การกอดในครั้งแรกที่ใกล้ชิดตัวกันมากขนาดนั้น
ต่อมาคุณจะใจแข็งไหวเหรอ...
12. ฉันรักนะเลยอยากให้คุณเป็นของฉันคนเดียว
เพราะถ้ารักจริงทำไมต้องขอเอาเปรียบเราด้วย
อะไรๆ เรื่องนี้ไม่ได้หรือไง ไม่มีอิสระทำอะไรก็ระแวงเกินเหตุ
13. เค้าคนนั้นเป็นแค่เพื่อนจริงๆ
ไม่มีทางซะหรอกที่เมื่อมีผู้ชายมากิ๊ก
แล้วเธอจะปฏิเสธเป็นแค่เพื่อน
เผื่อเลือกไว้ก่อน ( แค่เพื่อนแต่เห็นโทรมาบ่อยจริง)
14. ผู้ชายคนนั้นเค้ามาชอบฉันเอง
ฟังแล้วน่าภูมิใจที่แม่ตัวดีมีเสน่ห์เหลือร้าย
แต่ช้าก่อนเพราะเพลงของปานนำมาใช้ได้กับคำโกหกคำนี้เสมอ
ตบมือข้างเดียว ไม่ดัง แถมไม่บอกไปหละมีแฟนแล้วโว้ยแล้ว
15. เพื่อนมันลากฉันไป ฉันอยากไปกับมันซะที่ไหนเล่า
ถ้าไม่อยากไปจริงๆ แม้เค้ามาฉุดยังไงก้อไม่ยอม
ดังนั้นถ้าเค้าไม่ถูกเพื่อนเอาปืนจ่อหัว อย่าไปเชื่อว่า
เค้าไม่อยากไปเฮกับเพื่อน ตัดสินใจเข้าข้างตัวเองซะหมด มองข้ามเราไปเลย
16. ฉันไม่ว่างจริงๆ อยากเจอเธอจะตายไป
คำว่าไม่มีเวลาว่างของเค้าก้อคือไม่อยากไปเจอเธอนั่นเอง
และที่มันไม่ว่างเพราะว่าหายไปเฮกับเพื่อนๆ
หรือกิจกรรมที่เร้าใจกว่าของเค้า ดีกว่าอยู่กับเรา
17. ไม่มีทางที่ฉันจะเห็นเพื่อนสำคัญมากกว่าเธอ
ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันดีอยู่ว่าคำพูดผู้หญิงจะพูดกับผู้ร่วมแก๊งขาเมาท์ว่า
เฮ้ย ฉันน่ะไม่เคยเห็นแฟนสำคัญกว่าเพื่อนอยู่แล้ว
18. มีอะไรเราต้องไม่ปิดบังกันทุกเรื่อง
แม้จะรักกันปานหายใจปอดเดียวกัน
แต่เชื่อเหอะว่าทุกคนย่อมมีความลับของตัวเองบ้าง
และผู้หญิงไม่มี วันคายความลับของตัวเองออกมาอย่างแน่นอน
ถ้าตัวเองกลัวเดือดร้อนไม่ไว้ใจคนที่รักกัน
19. ถ้าวันไหนต้องเลิกกัน ฉันยังจะห่วงเธอเหมือนเดิม
มันไม่มีทางจะเป็นไปได้อยู่แล้ว
อย่างน้อยที่สุดก้อไม่มีทางว่าจะห่วงใยกันได้เท่าเดิม
20. ถ้าวันไหนที่คุณจะจากไปหรือกลับมา ฉันยังรักคุณนะ
เห็นมีแต่ผู้ชายที่พูดและแคร์โดยที่ในใจเธอคิดว่า
มึงไปได้ก็ดีรำคาญ อยากมาหาเองนี่เจ็บกลับไปสมควร ไม่คิดยังงี้หรอก

แมงมุม ตัว ใหญ่ที่สุดในโลก ( Biggest spider )

Goliath bird-eating spider แมงมุมโกไลแอทกินนก หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Theraphosa blondi แมงมุมโกไลแอท เป็นหนึ่งในแมงมุมทารันทูล่า ( Tarantula ) เป็นแมงมุมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่มาของชื่อ โดยชื่อแมงมุมกินนก นั้นมาจากตอนที่ Victorian era ที่ค้นพบมันตอนที่กำลังกินนก ฮัมมิงเบิร์ด ( Hummingbird )
ข้อมูลเฉพาะแมงมุมโกไลแอท กินนก

ความกว้าง 20 เซ็นติเมตรเมื่อยืดขาเต็มที่

น้ำหนักมากกว่า 120 กรัม

แหล่งที่อยู่พบได้ในป่าฝน ทางตอนเหนือ ของอเมริกาใต้ โดยจะอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดิน

ตัวเมียจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 2.5 - 3 ปี และมีอายุได้ยืนยาวถึง 15-25 ปี

ตัวผู้จะมีอายุได้ถึง 3-6 ปี และจะเสียชีวิตเมื่อผสมพันธุ์เสร็จ

สีของแมงมุม สีดำ ไปจนถึงสีน้ำตาลอ่อน และมีสีจางลงบริเวณขา และมีขนปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย อก และขา

ตัวเมียจะวางไข่ไว้ได้ทุกพื้นที่ ประมาณครั้งละ 100 - 400 ฟอง และจะฟักตัวใน 2 เดือน

เป็นแมงมุมไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ และมีเขี้ยวขนาดใหญ่

มีสายตาไม่ดี ใช้การจับกระแสสั่นสะเทือนของพื้นดินในการล่าเหยื่อ

อาหารทานแล้วไม่แก่

อาหารที่เราจะแนะนำต่อไปนี้คืออาหาร 7 อย่างที่จะช่วยชะลอสัญญาณแห่งวัย ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง ผิวแห้ง เฉื่อยชา เพื่อให้คุณๆ ดูอ่อนกว่าวัยได้ภายใน 3-6 เดือน มีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ...
1. หยุดผมร่วง ด้วยการรับประทานกล้วย ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินบี สามารถช่วยป้องกันผมร่วงได้ดี หากรับประทานกล้วยในปริมาณที่พอดี จะช่วยรักษาเส้นผมให้อยู่คู่หนังศีรษะได้อย่างยาวนาน
 
2. ลดผิวมัน ธัญญาหาร ล้วนอุดมไปด้วยวิตามินบี2 ซึ่งช่วยหยุดยั้งการผลิตน้ำมันส่วนเกินของผลิตภายในร่างกาย ฉะนั้นการรับประทานธัญญาหารทุกเช้าจะช่วยลดปัญหาผิวมัน และเส้นผมมันบางได้ดี     
3. หยุดการลอกของผิวหนัง หากรับประทานปลาแซลมอนในเกลือรมควัน อาหารทะเล หรือสลัดผักเป็นประจำ จะช่วยทำให้หยุดปัญหาการหลุดลอกของผิวหนังได้    
4. ผิวเนียนใสเหมือนเด็ก ใครอยากมีผิวที่เนียนใสเหมือนเด็กทารก ให้กินมะม่วงเป็นประจำ เนื่องจากมะม่วงมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยกระตุ้นการสร้างผิวหนัง รวมทั้งหนังศีรษะเพื่อทดแทนของเดิมที่หยาบแห้งและขรุขระให้กลับมีความชุ่ม ชื่นและนุ่มเนียนอีกครั้ง
5. ชะลอผมหงอก ถั่วลิสงอบเนยรวมกับเกล็ดขนมปังที่อบมาร้อนๆ ก่อนมื้ออาหาร สามารถช่วยชะลอผมหงอกได้ เพราะถั่วลิสงมีวิตามินบี ที่สามารถหยุดการเปลี่ยนสีผมให้เป็นสีดอกเลา แถมยังทำให้ผิวหนังดูดีขึ้นด้วย
6. ดูหนุ่มสาวขึ้นอีก 5 ปี ฝรั่งหรือน้ำฝรั่ง ซึ่งอุดมด้วยวิตามินซี จะช่วยเก็บรักษาคอลลาเจนที่เป็นบ่อเกิดแห่งโปรตีนภายใต้ผิวหนัง หรือรับประทานมะละกอ ส้ม ลูกเกดสีดำอบแห้ง ร่วมกับผลไม้อื่นๆ เป็นประจำก็จะช่วยเพิ่มวิตามินซีได้ ทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัยมากถึง 5 ปี
7. ปกป้องใบหน้าจากมลพิษ อะโวคาโด ซึ่งอุดมด้วยวิตามินบี จะช่วยทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย และร่างกายเกิดความต้านทานจากการทำลายในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการถูกทำลายจากบรรยากาศที่มลภาวะเป็นพิษด้วย          
รู้แบบนี้แล้ว ก็หันมาใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้มากขึ้นนะคะ เพราะมีผลต่อสุขภาพร่างกายของคนเราโดยตรงเลยก็ว่าได้...เลือกกินสิ่งที่ดี เพื่อตัวเราเองนะค

4 เคล็ดลับเด็ดลดไขมัน

คุณรู้จักเคล็ดลับการเผาผลาญไขมันมาแทบทุกอย่างแล้ว แต่นี่คือบางอย่างที่คุณสามารถเพิ่มเข้าไปได้เพื่อจัดการโจมตีไขมันในแบบที่ต่างออกไป
   
1. เล่นโยคะตอนเช้า เพียงแค่ 15 นาที การเล่นโยคะในตอนเช้าจะทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนมากขึ้น การย่อยดีขึ้น ทั้งหมดนำไปสู่การเผาผลาญไขมันและแคลอรีที่มากขึ้น และสุขภาพจิตจะดีไปตลอดทั้งวันด้วย
   
2. ท้าทายตัวเองสัปดาห์ละอย่าง การออกกำลัง เพื่อให้ตัวเองแข็งแรงและดูดี ไม่ได้ผลดีเท่ากับการออกกำลังอย่างมีเป้าหมาย เพราะการตั้งเป้าหมายจะทำให้คุณฝึกตัวเองเต็มที่ขึ้น ลองตั้งเป้าหมายในแต่ละสัปดาห์ เช่น การวิ่งขึ้นลงบันไดอย่างรวดเร็ว 10 รอบ แข่งเทนนิสหรืออกกำลังกายที่คุณไม่เคยลองมาก่อน เช่น เต้นระบำหน้าท้อง หรือชกมวย
   
3. ยกน้ำหนักพร้อมคาร์ดิโอ การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอสลับวันกับการยกน้ำหนักเป็นเรื่องดี แต่การออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 20-30 นาที ด้วยความหนักที่หลากหลายกันหลังการยกน้ำหนัก จะช่วยเผาผลาญไขมันในระหว่างนั้นและหลังจากนั้นอีกหลายชั่วโมง ลองวอร์มอัพด้วยการออกกำลังแบบคาร์ดิโอสัก 7 นาที ตามด้วยการยกน้ำหนัก 40 นาที และออกกำลังแบบอินเทอร์วัลอีก20 นาที มันจะช่วยคุณเผาผลาญไขมันได้สูงสุดในเวลาน้อยที่สุด
   
4. สั้นและหนักหน่วง หมดสมัยของการออกกำลังหรือยกน้ำหนักนานๆ แล้ว ทุกวันนี้เป็นเรื่องการออกกำลังแบบสั้นๆ แต่มีประสิทธิภาพ การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Sports Medicine and Physical Fitness ชี้ว่า การยกน้ำหนักแบบหนักๆ ในช่วงสั้นๆ ทำให้กล้ามเนื้อพัฒนาดีขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการยกน้ำหนักตามปกติ และทำให้มีกล้ามเนื้อที่ปราศจากไขมันมากกว่า

ข้อคิดดีๆ ที่คุณอาจมองข้าม

รักเริ่มต้นด้วยรอยยิ้ม ... เติบโตด้วยการจุมพิต ... และจบลงด้วยน้ำตา
อย่าเสียน้ำตาให้กับคนที่ไม่เคยเสียน้ำตาให้คุณ
เพื่อนที่ดีนั้นหายาก แต่ยากกว่าในการจะลาจากและเป็นไปไม่ได้ที่จะลืมเลือน

สิ่งที่ทำยากสุด คือ การมองดูคนที่คุณรักไปรักคนอื่น
อย่าให้อดีตยึดคุณไว้้ คุณจะพลาดสิ่งดีๆ ที่จะผ่านมา
คนบางคนสามารถทำให้โลกนี้ เป็นโลกที่แสนพิเศษ เพียงแค่มีเค้าอยู่ในโลกใบนี้เท่านั้น
อย่าขมวดคิ้วเลย เธอไม่รู้หรอกว่า... มีใครบางคนหลงรักรอยยิ้มของเธอ
ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ จนกระทั่งคุณตกหลุมรักเค้าแล้ว
เพื่อนที่ดีเหมือนดวงดาว คุณจะไม่ได้เห็นพวกเขาตลอดเวลา แต่คุณจะรู้ว่าเขาอยู่ที่
นั่นเสมอ

คุณจะทำอย่างไร ???
เมื่อคุณรู้ว่าเพียงคนๆ เดียวที่จะทำให้คุณหยุดร้องไห้ได้ คือคนที่ทำให้คุณร้องไห้
เพื่อนที่ดีที่สุดเหมือนใบไม้ 4 กลีบ ยากที่จะพบและโชคดีที่พบมัน
สัมพันธภาพที่แท้จริง ไม่มีวันจบสิ้น …. 

วิธีทำน้ำยาล้างผักด้วยตัวเอง

แน่ใจหรือไม่ว่าผักที่ซื้อมารับประทานนั้นไม่มีสารพิษตกค้าง ทางที่ดีควรล้างผักด้วยการใช้น้ำยาล้างผักจะเป็นการช่วยลดสารพิษในผักก่อน วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีวิธีทำน้ำยาล้างผักแบบง่ายๆ ด้วยตัวเองมาบอก

- สูตรน้ำส้มสายชู (ลดสารพิษได้ถึง 90-95%)
นำน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำสะอาดหรือน้ำประปาธรรมดา 15-20 ลิตร แล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้ง

- สูตรน้ำเกลือ (ลดสารพิษได้ถึง 60-70%)
นำเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 4-5 ลิตร แล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้ง

- สูตรน้ำโซเดียมไบคาร์บอเนต (ลดสารพิษได้ถึง 90-95%)
นำโซเดียมไบคาร์บอเนต 1 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาด 20-25 ลิตร แล้วนำผักมาแช่ทิ้งไว้ 15-20 นาที จากนั้นล้างด้วยน้ำเปล่า 3-4 ครั้ง

ล้างผักให้สะอาดเพียงเท่านี้ ก็จะได้รับประทานผักที่ปลอดสารพิษแล้ว.

วิธีเลือกซื้อปลาทู

มีวิธีการเลือกซื้อปลาทูมาฝาก 
วิธีเลือกซื้อปลาทูสด ลูกตาจะนูน ตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวจะมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องจะมีสีขาว หรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่นๆ เหงือกสีแดงออกชมพู ไม่มีกลิ่น เมื่อใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยนิ้วออก รอยยุบจะกลับคืนสภาพเดิมได้หมดหรือเกือบหมด แสดงว่าปลาทูเนื้อแน่น ถ้าหากปลาทูมีตาดำขุ่น บริเวณลูกตามีเลือดคั่ง สีพื้นของลำตัวซีด เหงือกมีสีแดงซีด ปลามีกลิ่นคาว ลำตัวอ่อนเหลว แสดงว่าปลาทูตัวนั้นไม่สดอย่าไปซื้อ

เพียงเท่านี้ คุณก็จะได้ปลาทูที่สดใหม่.

สุดยอดอาหาร เพื่อหน้าท้องแบนราบ


เพื่อให้ใส่ชุดไปปาร์ตี้ได้สวยดังใจ มาลองปรับเปลี่ยนนิสัยการกินเพื่อให้หน้าท้องแบนราบ ด้วยสุดยอดอาหารดี 6 อย่าง
         อะโวคาโด                     
         สุดยอดพลัง : ต่อสู้กับไขมัน
         อะโวคาโดเป็นหนึ่งในผู้เข้าชิงเลยเชียว ถ้าพูดถึงอาหารลดหน้าท้อง ด้วยไขมันอิ่มตัวชนิดเดี่ยวที่มีผลการวิจัยออกมาว่า ผู้ไดเอ็ตที่บริโภคไขมันชนิดนี้ มีหน้าท้องลดลงมากกว่าผู้ไดเอ็ตที่บริโภคแคลอรีเท่ากัน แต่ไม่มีไขมันตัวนี้
         ช่วยได้อย่างไร : จุดสูงสุดของระดับน้ำตาลในเลือดนั้น ส่งสัญญาณให้ร่างกายกักเก็บไขมันไว้ที่ส่วนกลาง แต่ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดเดี่ยว ช่วยขัดขวางการสะสมของไขมัน อะโวคาโดครึ่งลูกมีไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายถึง 10 กรัม
         ชาเขียว                    
   
      สุดยอดพลัง : ตัวเร่งเมตาบอลิซึ่ม
         ลองเปิดเผยซิกซ์แพ็กของคุณด้วยการละลายไขมัน การดื่มชาเขียววันละ 3 ถ้วยนั้น ช่วยกระตุ้นเมตาบอลิซึม และช่วยกำจัดได้ถึง 30 แคลอรีในแต่ละวัน
         ช่วยได้อย่างไร : สารอีจีซีจีในชาเขียวช่วยให้คุณย่างสดเจ้าไขมันให้สลายไปได้ง่ายขึ้น การเผาผลาญมากเป็นพิเศษนี้อาจช่วยให้น้ำหนักคุณลดได้ถึงปีละ 1.4 กิโลกรัม
          โยเกิร์ต                  
   
     สุดยอดพลัง : ลดหน้าท้องทันใจ
        พุงน้อย ๆ ที่เห็นได้เมื่อใส่บิกินี จัดการได้ด้วยการกินโยเกิร์ตชนิดโพรไบโอติก ที่มีจุลินทรีย์ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
         ช่วยได้อย่างไร : โยเกิร์ตเข้มข้นหนึ่งถ้วย จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ของคุณ และช่วยกำจัดสารจุลินทรีย์ที่ทำให้มีส่วนเกินที่หน้าท้องได้
         ข้าวสาลี                
        สุดยอดพลัง : ลดเซลล์ไขมัน
         ผู้ที่บริโภคโฮลวีตสามารถลดไขมันที่ทำให้เกิดหน้าท้อง ได้มากกว่าผู้รับประทานธัญพืชขัดสี โดยที่ข้าวสาลีนางเอกของเรา เพียงแค่ครึ่งถ้วยก็มีปริมาณไฟเบอร์มากกว่า 4 กรัม และแคลอรีน้อยกว่าถึง 76 แคลอรี เมื่อเทียบกับธัญพืชอื่น ๆ
        ช่วยได้อย่างไร : ข้าวสาลีมีไฟเบอร์ที่ทำให้อินซูลินในร่างกายมีปริมาณต่ำ ที่อาจช่วยทำให้เซลล์ไขมันหดตัวจนลดจำนวนลงได้
        นมช็อกโกแลต          
       
สุดยอดพลัง : สร้างกล้ามเนื้อ
         หลังออกกำลังกาย เสริมสร้างกระเพาะให้แข็งแรงด้วยนมช็อกโกแลตสิ นักกีฬาที่ดื่มนมช็อกโกแลตนั้น มีอัตราการเสียหายของกล้ามเนื้อต่ำลง หลังจากออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 4 วัน

        ช่วยได้อย่างไร : นมช็อกโกแลตหนึ่งแก้วนั้นจะรวมพลังกับคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เพื่อส่งเสริมการสร้างกล้ามเนื้อ
         บลูเบอร์รี่                  
  
      สุดยอดพลัง : เพิ่มพลังฟิตเนส   สารแอนตี้ออกซิแดนต์จำนวนมหาศาลในเบอร์รี่นั้น ช่วยให้คุณผ่านการออกกำลังกายที่อาจเป็นเรื่องสุดหินสำหรับบางคนไปได้
      
  ช่วยได้อย่างไร : แอนตี้ออกซิแดนต์หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยในการไหลเวียนเลือดให้ส่งออกซิเจนเข้าไปในกล้ามเนื้อคุณได้มากขึ้น เมื่อได้ออกซิเจนตามที่ต้องการจะทำให้การออกกำลังกายง่ายกว่าเดิม ทำให้คุณออกกำลังได้นานและบ่อยครั้งขึ้น

เรื่อง....วัดเป็นที่พึ่งที่แสนสงบ

 สถานที่ทุกๆแห่งล้วนมีสิ่งที่น่าจดจำมากมายเป็นที่ๆเกิดความประทับใจ เกิดความผูกพันธ์ เหมือนที่ข้าพเจ้าได้มาแล้วครั้งหนึ่ง นี่คือความรู้สึกที่ข้าพเจ้ามีต่อสถานที่เหล่านี้แต่ก็ไม่เที่ยงตรงและไม่คงเท่าไรนักทุกๆคนต่างก็คงเคยมีแรงจูงใจหรือความศรัทธาไม่มากก็น้อย

วัดคือที่ๆสงบน่าศรัทธายิ่งนักพอก้าวเข้าสู่ประตูโบถส์ ข้าพเจ้าก้าวข้ามแม่ธรณีรู้สึกดีมากมาย ความเงียบ สงบ เยือกเย็นมาสู่ใจ ในอารามแห่งนี้ ณ.ที่แห่งนี้ข้าพเจ้าได้มานั่งสมาธิ และมองดูองค์พระปฏิมาที่สง่างามมาก ข้าพเจ้านึกถึงว่าข้าพเจ้าได้ทำสิ่งใดไว้จึงได้มาเจอกับพุทธ ศาสนาที่ดีเลิศเช่นนี้และคงไม่ต้องบอกท่านสาธุชนทั้งหลายคงมองภาพออกบ้าง
ที่นี่คือที่ทุกๆคนมุ่งหน้าสตรงมาเพื่อความสงบ เพื่อสร้างบุญ สร้างบารมี ผู้คนที่ศรัทธาต่างนำหนังสือสวดมนต์มาวางเพื่อสร้างบารมี สร้างกุศล ข้าพเจ้ารู้สึกดีมากมายจนไม่อาจที่จะบรรยายสิ่งใดๆอีก ถึงเทศกาลก็มีสาธุชนมากมายต่างมุ่งหน้ามาเพื่อความสงบและศรัทธา
จิต คือ ธรรมชาติชนิดหนึ่งซึ่งรู้อารมณ์ จิตเป็นตัวรู้ สิ่งที่จิตรู้ เรียกว่าอารมณ์
จิต คือ ธรรมชาติชนิดหนึ่งที่ รับ จำ คิด รู้ ซึ่งอารมณ์
จิต ต้องรับอารมณ์จึงจะรู้ และจำ แล้วก็คิดต่อไป
จิต มีชื่อเรียกหลายคำ เช่น มนายตนะ มนินทรีย์ วิญญาณ วิญญาณขันธ์ มโน วิญญาณ ธาตุ ฯลฯ


ท้ายที่สุดนี้ ข้าพเจ้า ก้ ไม่อาจก้าวข้ามทางแห่งสันติสุขนี้ได้เลยตราบใดที่ยังมี ลมหายใจ
..

เคล็ดลับ ต้มไข่ที่ร้าวไม่ให้แตก

ต้มไข่ที่ร้าวไม่ให้แตก ไข่เป็นอาหารที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ เรียกได้ว่ากินไข่ฟองเดียวได้สารอาหารครบ 5 หมู่ ทุกครัวเรือนจึงต้องมีไข่ติดบ้านไว้ ไข่มีวิธีปรุงที่ง่ายแสนง่าย และยังปรุงได้ทั้งอาหารคาว และหวาน ไม่ว่าไข่ไก่หรือไข่เป็ดหากไม่ระมัดระวังในการถือ ไข่อาจจะกระทบกันทำให้เกิดรอยร้าว เมื่อเรานำไปต้มไข่ก็จะทะลักออกตามรอยร้าว ดังนั้นก่อนที่เราจะนำไข่ที่มีรอยร้าวไปต้มให้ใส่่เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ในน้ำที่จะใช้ต้ม ความเค็มของเกลือจะช่วยปิดรอยร้าวของไข่ไม่ให้เนื้อไข่ไหลออกมา ในการต้มไข่ หากต้องการให้ไข่แดงเป็นยางมะตูมสวยน่ากินควรใช้เวลาต้มประมาณ 8 นาที

เคล็ดลับ ลวกเส้นสปาเกตตี้ให้ทานอร่อย

การลวกเส้นสปาเกตตี้นี่จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยากเพราะบางครั้ง หากลวกไม่พอดี เส้นก็อาจจะเละไป หรือไม่ก็แข็งไป รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ นี่มองข้ามไม่ได้นะคะ เพราะสปาเกตตี้จะอร่อยหรือไม่อร่อยส่วนนึงก็อยู่ที่เส้นนี่แหละ จะลวกเส้นสปาเกตตี้ให้อร่อยเริ่มจากต้องใส่เกลือ เล็กน้อยลงไป ในน้ำที่จะใช้ลวก พอน้ำเดือดก็ใส่เส้นสปาเกตตี้ลงไปต้มจนเส้นอ่อนตัวลองตักเส้นขึ้นมาชิมสังเกตว่ายังกรุบ ๆ อยู่ตรงกลางเล็กน้อยก็แสดงว่าใช้ได้ ยกหม้อขึ้น ช้อนเส้นขึ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วแช่ลงในน้ำเย็นทันที พอเส้นเย็นแล้วค่อยตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำอีกครั้ง เคล้าด้วยน้ำมันเล็กน้อยเป็นอันเสร็จ นำไปปรุงรสต่อได้

รู้หรือไม่ ว่าดื่มนมมากเกินไปอาจทำให้ตาบอดได้ !!

การดื่มนมมากเกินไปอาจทำให้ตาบอดได้
มีงานวิจัยที่พูดถึงความผิดปกติของร่างกายที่มีต่อน้ำตาลที่อยู่ในนม
โดยปกติในนมวัวที่เรารับประทานกันเป็นประจำนั้นจะมีน้ำตาลชนิดหนึ่งที่เป็นองค์ประกิบคือน้ำตาลแลกโตส Lactose ซึ่งเมื่อร่างกายย่อยน้ำตาลแลกโตสแล้วจะได้น้ำตาลสองชนิดคือน้ำตาลกลูโคส และน้ำตาลกาแลกโตส ซึ่งน้ำตาลกาแลกโตสนี่แหละที่จะส่งผลต่อร่างกายหากได้รับในปริมาณมากเกินไป ในผู้ป่วยที่ร่างกายไม่สามารถจัดการกับน้ำตาลกาแลกโตสที่ได้รับเข้าไปในร่างกายจะส่งผลทำให้เกิดอาการ อาเจียน ท้องร่วง และตัวเหลือง อันเนื่องมาจากความผิดปกติของตับ อีกทั้งหากยังได้รับน้ำตาลกาแลกโตสอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลทำให้เกิดโรคต้อที่กระจกตาได้ และหากได้รับเพิ่มเติมเข้าไปอาจทำให้ตาบอดได้

6 ข้อคิดดีๆจาก นิทานอีสป.. ที่คุณอาจจะลืมไปแล้ว

1.ไม้นวมดีกว่าไม้แข็ง
จากเรื่อง ลมกับพระอาทิตย์ ที่แข่งว่าใครจะทำให้นายพรานถอดเสื้อคลุมออกได้ ลมพยายามพัดลมให้แรงที่สุด แต่ยิ่งพัดแรงเท่าไหร่ นายพรายก็ยิ่งเอาเสื้อคลุมกระชับตัวเท่านั้น แต่พระอาทิต์เพียงส่องแดดเรื่อยๆ นายพรานก็เริ่มร้อนจนต้องถอดเสื้อคลุมออกแทน ที่เราจะวีนแตก โยนระเบิดใส่เพื่อน ทำไมเราไม่ใจเย็นๆค่อยๆพูดตรงๆ อย่างใจเย็น หรือคุยกันบอกให้เพื่อนช่วยคุยกันหน่อย ไม่มีใครชอบถูกสั่งหรือบังคับให้ทำหรอก เพราะถ้าเป็นเรา เราคงไม่อยากได้ยินสิ่งที่ไม่ดีเหมือนกัน

2.อย่าหาเหตุผลจากคนพาล
จากเรื่อง ลูกแกะกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกหาเรื่องจะกินลูกแกะ บอกว่าลูกแกะทำน้ำลำธารขุ่น ไม่ว่าลูกแกะจะแก้ตัวยังไงก็ไม่รอดช่วงเวลาที่คนโกรธ มักจะเป็นเวลาที่สมองส่วนเหตุผลหยุดทำงาน เพราะบางครั้งอาการพลุ่งพล่านที่เห็นนั้นอาจไม่ได้ต้องการคำแก้ตัวใดๆ เป็นแค่การอยากระบาย และถ้าคนๆ นั้นเป็นคนที่ไม่เปิดใจกว้าง เก็บพลังการอธิบายเอาไปไว้ให้การให้อภัยจะดีกว่า

3.พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
จากเรื่อง สุนัขคาบเนื้อกับเงา สุนัขคาบชิ้นเนื้อใหญ่ข้ามแม่น้ำ เมื่อก้มมองเงาตัวเองคิดว่าสุนักอีกตัวมีเนื้อชิ้นใหญ่กว่า จึงคายก้อนเนื้อที่มีแล้วกระโจนลงน้ำ สุดท้ายก็ไม่เหลืออะไรเลยทำไม เราจะต้องแสวงหาคนที่ดีกว่า เมื่อเรามีความสุขดีอยู่กับแฟนแล้ว ถ้าสายตาคุณไม่เคยหยุดนิ่ง สอดส่องหาคนที่ดีกว่าตลอกเวลา คุณคงจะต้องเสียเวลามองหาแฟนคยใหม่ตลอดไป เราไม่มีทางรู้เลยว่ากิ๊กคนใหม่นั้นดีกว่าแฟนเราจริงหรือสร้างภาพ ถ้าปล่อยให้คนดีหลุดมือไปเราอาจต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่า

4.ทุกอย่างต้องเกื้อเราลกัน
จากนิทานเรื่อง ร่างกายของเรา เมื่ออวัยวะอื่นๆ อิจฉาท้อง ที่ได้อาหารแต่ตัวเองต้องทำงานหนัก จึงประท้วงมือไม่ยอมหยิบอาหาร ฟันไม้ยอมเคี้ยว ผ่านไปสองสามวันอวัยวะทุกส่วนไม่มีแรงเหลือ เพราะทุกคนต้องทำงานร่วมกันถึงจะอยู่ได้ไม่มีใครเคยบอกว่า one man show คือการทำงานที่ดีที่ได้ผลดีที่สุด การอยู่ร่วมกับคนอื่นด้วนความเอื้ออาทรเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่มนุษย์ธรรมดา คนหนึ่งพึงต้องมี คุณไม่รู้หรอกว่าคุณต้องการความช่วยเหลือจากใคร เมื่อใด จำไว้ว่าคุณไม่ใช่ผู้วิเศษมาจากไหน งานบางอย่างต้องการพลังสร้างสรรค์ ถ้าพวกเขาไม่ร่วมมือกับคุณบ้างจริงๆ คุณอากทำลานได้อยากกว่านี้

5.อย่าประมาท
จากเรื่อง ตั๊กแตนกับมด ระหว่างฤดูร้อน มดทำงานทั้งวัน สร้างรังและกักตุนอาหาร แต่ตั๊กแตนเอาแต่ร้องเพลงเที่ยวเล่น เมื่อฤดูหนาวมาถึง ตั๊กแตนจึงหิวโซส่วนมดมีรังดีๆอยู่ และมีอาหารพร้อมตลอดไม่ มีใครรู้ว่าอนาคตเราต้องเจอกับอะไรบ้าง จู่ๆ อาจไม่สบายจนทำงานไม่ได้ อาจจะต้องออกจากงาน ถ้าคุณไม่ระวังค่าใช้จ่าย ไม่เก็บออมไว้เลย จะมีชีวิตที่มั่นคงได้อย่างไร

6.ช้าๆได้พร้าเล่มงาน
จาก เรื่อง กระต่ายกับเต่า กระต่ายวิ่งด้วยความรวดเร็วแต่ชะล่าใจ ในขณะที่เต้าคลานช้าแต่มีความพยายามสม่ำเสมอ ทำให้เข้าเส้นชัยก่อนและชนะในการแข่งขันใช้เวลาศึกษากันและกันไป เรื่อยๆ อย่าให้ ความใคร่ ความหลงที่ร้อนแรงตอนคบกันใหม่ๆ มีอิทธิพลกับการตัดสินใจทุกอย่าง ข่มใจตัวเองบ้าง

10 อันดับ โรงแรมแปลกทั่วโลก


ถ้าคุณกำลังเจอปัญหากับบริการเดิมๆ การตกแต่งหรือตึกหน้าตาเดิมๆเวลาไปพักผ่อนตามโรงแรมต่างๆ โรงแรม 10 อันดับ ต่อไปนี้คือที่ๆเราขอแนะนำแบบสุดๆสำหรับนักท่องเที่ยวแบบคุณ แต่ละที่จะมีการตกแต่งที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่แน่นอน นี่คือ 10 อันดับ สุดยอดโรงแรมแปลกทั่วโลก ชอบโรงแรมไหนเลือกได้เลย
10. Wagon Stays.
อีกหนึ่งที่พักที่น่าสนใจในนิวซีแลนด์อยู่ที่เมือง Christchurch แค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า คุณสามารถพักอยู่บนรถม้าที่มีพร้อมทั้งห้องน้ำ ห้องครัว และทีวีดาวเทียม โรงแรมนี้ให้บรรยากาศที่พักบนรถม้าที่ผสมกับความทันสมัยอย่างลงตัว เพื่อความสุขของแขกที่มาพักทุกคน
9. Out ‘n’ About Treesort & Treehouse Institute
เพียงแค่ออกจากเมือง Cave Junction, Oregon มานิดเดียว โรงแรมนี้เสนอบ้านพักสุดหรูที่คุณฝันไว้ในวัยเด็กเพียง 18 หลัง แต่ละหลังมีทั้งห้องน้ำและตู้เย็น บางหลังสูงจากพื้นดินถึง 300 ฟุต ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพักผ่อนสบายในวันหยุดบนบ้านต้นไม้อีกแล้ว
8. Hobbit Motel
โรงแรม Hobbit นี้ตั้งอยู่ที่ Woodlyn Park นิวซีแลนด์ โดยเหมือนกับบ้านที่เหล่า Hobbit จากเรื่อง Lord of The Rings อยู่ คุณสามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศอันสงบสุขของเหล่าฮอบบิทในนิยายยอดฮิตของ J.R.R. Tolkien ได้ที่นี่
7. Cappadocia Hotel
สำหรับโรงแรมนี้ก็ยังคงอยู่ที่ตรุกีเช่นกัน โรงแรมนี้สร้างโดยการขุดเข้าไปบนหน้าผาของภูเขา Yunak Evleri ห้องพักแต่ละห้องออกแบบมาเป็นถ้ำเหมือนในการ์ตูนฟลิ้นสโตน โรงแรมนี้สร้างเสร็จพร้อมกับห้องพักจำนวน 30 ห้องที่พาคุณกลับไปสัมผัสบรรยากาศสมัยยุค 1400 - 1500 ปีก่อน
6. Marmara Antalya
ด้วยการผสมผสานระหว่างตุรกีและยุโรป โรงแรมนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Antalya ตุรกี โรงแรมนี้ขึ้นชื่อเรื่องวิวที่สวยงาม การดีไซน์ที่ลงตัว และการบริการที่อบอุ่น จุดเด่นเหนืออื่นใดของโรงแรมนี้ก็คือ ทุกๆห้องพักจะหมุนไปเรื่อยๆแบบช้าๆ เพื่อให้สามารถซึบซับกับวิวสวยงามได้แบบ 360 องศา
5. Hotel Everland
ที่นี่น่าจะเป็นที่สุดหรูเพียงแห่งเดียวที่คุณคิดถึง เพราะโรงแรมนี้มีเพียงห้องเดียว ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์ Palais de Tokyo โดยในโรงแรมจะมีทั้งห้องน้ำ เตียงขนาดคิงไซส์และเล้าจ์ พร้อมวิวสุดสวยของเมืองปารีส Seine และหอไอเฟลที่ประดับไฟสวยงามยามค่ำคืน คุณสามารถจองที่พักที่นี่ผ่านทางเวบไซต์ โดยจะสุ่มเวลาเปิดให้จองเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น!
4. Dog Bark Park
โรงแรมที่เป็นที่ชื่นชอบของคนที่รักสุนัขแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่เมือง Cottonwood รัฐ Idaho ด้วยรูปร่างของโรงแรมที่ถอดแบบมาจากเจ้าสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล แขกที่มาพัก สามารถเข้าไปในตัวเจ้าบีเกิ้ลนี้จากทางเข้าที่อยู่ตรงระเบียงชั้น 2 การตกแต่งภายในนั้นออกแบบมาให้ลงตัวกับรูปแบบของโรงแรมนี้โดยเฉพาะ
2. The Daspark hotel
ที่นี่อาจจะดูไม่สะดวกสบายนัก แต่โรงแรม Daspark คือการปฏิวัติรูปแบบที่พักใหม่ที่ผู้คนมากมายเริ่มชื่นชอบ โรงแรมนี้มีอยู่ที่เมือง Ottensheim ประเทศ Austria ห้องพักของที่นี่สร้างจากท่อระบายน้ำขนาด 10 ตัน และมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 6.5 ฟุต ให้คุณได้พักผ่อน








1.      The Giraffe Manor
โรงแรม Giraffe Manor คือโรงแรมสุดหรูและพิเศษสุด ตั้งอยู่นอกเมืองไนโรบิ เมืองหลวงของประเทศเคนย่า จุดเด่นของที่นี่ก็คือ มันตั้งอยู่กลางฝูงยีราฟนั่นเอง คุณสามารถดื่มด่ำกับการทานอาหารพร้อมกับหลบคอที่ยืดยาวของยีราฟที่ยื่นเข้ามา และจากเว็บไซต์ของโรงแรม ที่นี่คงเป็นที่เดียวในโลกที่คุณสามารถให้อาหารและถ่ายรูปยีราฟได้จากโต๊ะอาหารเช้าและหน้าห้องพักของคุณ

ดูแลรักษาแผลเป็น

แผลเป็นบนใบหน้าหรือส่วนนอกร่มผ้าคงทำให้หลายต่อหลายคนขาดความมั่นใจ ด้วยเหตุนี้เมื่อเกิดแผลแล้วควรรีบรักษาป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดแผลเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทครีมและเจลทาแผลหรือแผ่นเจลที่ใช้แปะก็ช่วยได้ แต่อาจได้ผลลัพธ์ไม่ดีเหมือนกันทุกคน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับลักษณะของแผล และกรรมพันธุ์ของแต่ละคน

แผลเป็น คือ แผลที่หายแล้วแต่ยังมีรอยอยู่ เมื่อเกิดบาดแผลบนผิวหนัง ร่างกายของเราจะรักษาแผลเองโดยผลิตอิลาสตินและคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ในชั้นหนังแท้ขึ้นมาปกป้องผิวหนัง และซ่อมแซมชั้นผิวหนังส่วนที่ฉีกขาด แผลที่ลึกนั้นมีความเสียหายของชั้นผิวหนัง รวมทั้งเส้นเลือดและเส้นประสาทมากกว่า จึงใช้เวลาในการรักษามากกว่าแผลตื้นๆ ที่มีการสูญเสียแค่เซลล์หนังกำพร้า โอกาสที่จะเกิดแผลเป็นจึงมีมากขึ้น แผลเป็นเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะค่อยๆ จางลงเองตามธรรมชาติแต่จะใช้เวลานานเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับสี ความเรียบ และขนาดของแผลนั้นๆ

สีที่แตกต่าง แผลเป็นที่มีรอยเป็นสี มักเกิดจากแผลที่ไม่ลึกมาก เกิดจากการเปลี่ยนของเซลล์เม็ดสี ทำให้แผลแลดูมีสีดำหรือสีคล้ำ รักษาได้โดยการทาวิตามินเพื่อผลัดเซลล์ผิว เช่น วิตามินเอ วิตามินซีหรืออาจใช้เลเซอร์ประเภททำลายเซลล์เม็ดสี (Pigment Laser) ที่ทำให้เมลานินที่เข้มผิดปกติให้แตกออก และร่างกายของเราก็จะกำจัดออกไปเองโดยอัตโนมัติ

แผลเป็นแบบที่ลึกขึ้นมาหน่อยจะเป็นสีแดง รักษาได้ด้วยการทาวิตามินเพื่อผลัดเซลล์ผิวได้เช่นกัน แต่หากเลือกการรักษาด้วยเลเซอร์ ควรเป็นเลเซอร์ที่ใช้ลบรอยแดง ประเภท V-beam หรือ Pulse Dye ซึ่งใช้แก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการจัดระบบเส้นเลือดให้เป็นปกติ